ครั้งแรกในประวัติศาสตร์4ผู้คว้าแชมป์ทริปเปิลคราวน์เข้าตัดเชือกชิงแชมป์โลก
หากใครเป็นแฟนสนุกเกอร์พันธุ์แท้ ก็คงจะพอรู้อย่างยอดเยี่ยมว่า แชมป์รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ที่แวดวงคิวโลกนั้นมี 3 รายการด้วยกัน มี ชิงแชมป์โลก, ยูเคแชมเปี้ยนชิพ แล้วก็มาสเตอร์ส
โดย สตีฟ เดวิส, สตีเฟ่น เฮนดรี้ และ มาร์ค เจ วิลเลียมส์ เป็นนักสอยคิวเพียง 3 คนเท่านั้นที่สามารถผงาดครองแชมป์ 3 รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ไปถือครองข้างในฤดูเดียวกัน ซึ่ง เฮนดรี้ ยังสามารถทำเป็นถึง 2 หนอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ฤดู 1989-1990 แล้วหลังจากนั้นก็ 1995-1996แต่ เมื่อกลับแฟ้มมองดูเรื่องราวต่อสู้สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกครั้งที่ผ่านๆมา ปรากฏว่า ยังไม่เคยมีครั้งใด ที่มือพระรอยแดง ซึ่งผ่านการมีไว้ในครอบครองแชมป์ศึกใหญ่ทริปเปิลคราวน์ครบทั้ง 3 ถ้วย เข้าถึงรอบรองชนะเลิศครบทั้ง 4 คนเลยจนกระทั่งศึกชิงแชมป์โลกในปีนี้
แฟนสนุกเกอร์จะได้แลเห็นโฟร์คิง ที่เคยผ่านการได้แชมป์ศึกใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ ข่าวสนุกเกอร์ ครบทั้ง 3 รายการ(ชิงแชมป์โลก, ยูเคแชมเปี้ยนชิพ, มาสเตอร์ส) มาฟาดฟันแข่งขันเพลงคิวกันอย่างพร้อมหน้า ในรอบรองชนะเลิศมี เดอะร็อกเก็ต รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ, จรวดทางเรียบ มาร์ค เจ วิลเลียมส์ มือ 8 ของโลกจากเวลส์, เพชฌฆาตปืนกล จัดด์ ทรัมป์ มือ 4 ของโลกจากอังกฤษ รวมทั้ง, พ่อมดวิสกี้ จอห์น ฮิกกินส์ มือ 6 ของโลกจากสกอตแลนด์เท่านั้นยังไม่พอ 3 ทหารเสือที่สมัยคลาสออฟ 92 อย่าง รอนนี่, มาร์ค เจ รวมทั้ง ฮิกกินส์ ยังอยู่กันครบ และเป็นหนที่ 3 ลำดับที่สามเทพรุ่นลายคราม เข้ามาตัดเชือกในสังเวียนครูซิเบิลเธียร์เตอร์กันอย่างพร้อมหน้าต่อจากปี 1998 และ 1999พูดได้ว่า นี่เป็นรอบตัดเชือกของศึกชิงแชมป์โลก
ที่น่าดูน่าชมเยอะที่สุดครั้งหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆโดยสายบน มาร์ค เจ วิลเลียมส์ จะดวลกับ จัดด์ ทรัมป์ แล้วก็สายข้างล่าง รอนนี่ โอซัลลิแวน จะปะทะกับ จอห์น ฮิกกินส์คู่แรก มาร์ค เจ วิลเลียมส์ อดีตกาลแชมป์โลก 3 สมัย ที่เมื่อ 3-4 ปีกลาย กำลังจะห้อยคิวอยู่แล้ว แถมยังเคยลั่นวาจาอีกว่า เกลียดชังสนุกเกอร์เข้าไส้ ได้งัดฟอร์มเก่งเหมือนกับสมัยยังเรืองอำนาจกลับมาอีกครั้ง โคจรมาพบกับ จัดด์ ทรัมป์ อดีตกาลแชมป์โลกปี 2019 ที่ฟอร์มเริ่มดีวันดีคืน ใกล้เคียงกับเมื่อ 1-2 ฤดูก่อน ซึ่งเป็นตอนๆที่เร่าร้อนสุดๆเมื่อวัดกันแล้ว จัดด์ มีลูกแม่นที่เหนือกว่าแน่นอนด้วยวัยที่กำลังสดรวมทั้งห้าวมากกว่า แม้กระนั้น มาร์ค เจ ดีมากกว่าในเรื่องความเก๋า
